|
ตำนานทองบางสะพานแห่งอำเภอบางสะพานของจังหวัดประจวบ | |
ตำนานทองบางสะพานคลิกดูได้ที่นี่ http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=49245 | |
ผู้ตั้งกระทู้ คนบางสะพาน :: วันที่ลงประกาศ 2009-12-28 10:16:20 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3147693) | |
อำเภอบางสะพาน สินค้าพื้นเมือง และของที่ระลึก ของฝากจากอำเภอหัวหิน ได้แก่ เครื่องประดับทำจากกะลามะพร้าว ผ้าพิมพ์โขมพัตถ์ ผ้าพิมพ์ลายไทย ไม้กวาดปัดฝุ่น เครื่องใช้ทำจากป่านศรนารายณ์ เครื่องจักสานไม้ไผ่ตลอดจนอาหารทะเลสด และแห้ง งานประเพณีงานนมัสการพระบรมสารีริกธาตุเขาช่องกระจก จัดขึ้นที่เขาช่องกระจก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ในวันที่ 12 มิถุนายน ของทุกปี ภายในงานจัดให้มีพิธีถวายสักการะพระบรมสารีริกธาตุ และการห่มผ้ารอบเจดีย์ นอกจากนั้นผู้เข้าร่วมงานสามารถชมภูมิทัศน์ของอ่าวประจวบฯอ่าวน้อยและอ่าวมะนาวจากยอดภูเขากลางเมืองได้อีกด้วย | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนบ้านกรูดบางสะพาน วันที่ตอบ 2009-12-28 10:19:48 |
ความคิดเห็นที่ 2 (3147697) | |
จากอุทกภัยที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๔๘ ที่เกิดน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลทะลักเข้าท่วม ชาวบ้านต่างอพยพหนีเอาชีวิตรอด แต่หลังน้ำลด มีผู้คนพบแร่ทองคำในพื้นที่คลองทอง ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จำนวนมาก พอมีคนมาขุดทองกันมากขึ้น ก็เริ่มพบโครงกระดูกมนุษย์ชิ้นเล็กๆ และเครื่องปั้นดินเผาหม้อดินแตกกระจายทั่วบริเวณ น.ส.พยุง วงศ์น้อย นักโบราณคดีจากสำนักงานศิลปากรที่ ๑ ราชบุรี เปิดเผยว่าบริเวณที่ขุดพบเครื่องปั้นดินเผา นี้เป็นแหล่งโบราณคดีในยุคของการร่อนทอง ซึ่งดูจากภาชนะดินเผาแล้วเป็นลวดลายของจีน/เวียดนาม ซึ่งพบส่วนใหญ่อยู่ในยุคกรุงศรีอยุธยา มีอายุประมาณ ๒๕๐ ปี หรือในยุคกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น โดยจะนำสิ่งของที่ค้นพบไปตรวจสอบทางโบราณคดีต่อไป นายกฤษดา หมวดน้อย กรรมการสภาวัฒนธรรม อ.บางสะพาน กล่าวว่า ทองบางสะพานมีมาแต่ในอดีต ปรากฏหลักฐานในพงศาวดารสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ มีการไปร่อนทองที่บางสะพาน นำไปหุ้มยอดมณฑปพระพุทธบาทสระบุรี และ"ในวรรณคดีขุนช้างขุนแผน ก็ได้กล่าวถึงขุนแผนตีดาบฟ้าฟื้น ทำด้วยทองถ้วนบาทชาติบางตะพาน ในขณะที่นางวันทองเตรียมข้าวของให้พลายงามเพื่อหนีภัยจากขุนช้าง ยังมีการระบุว่า "แหวนราคาห้าชั่งทองบางตะพาน ล้วนต้องการเก็บใส่ในไถ้น้อย" จึงนับว่าบางสะพานหรือบางตะพานในอดีต โด่งดังในเรื่องของทอง (ข่าวสด ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙) | |
ผู้แสดงความคิดเห็น คนบางสะพานอยากให้อ่านครับ วันที่ตอบ 2009-12-28 10:21:56 |
ความคิดเห็นที่ 3 (3147704) | |
ทธ.รายงานเรื่องชาวบ้านตื่นทองบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กรมทรัพยากรธรณี วันที่ 2 ธ.ค. 2548 | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ck วันที่ตอบ 2009-12-28 10:39:55 |
ความคิดเห็นที่ 4 (3147705) | |||||||||||||
| |||||||||||||
ผู้แสดงความคิดเห็น ck วันที่ตอบ 2009-12-28 10:41:07 |
ความคิดเห็นที่ 5 (3147708) | |||||||||
| |||||||||
ผู้แสดงความคิดเห็น ck วันที่ตอบ 2009-12-28 10:43:57 |
ความคิดเห็นที่ 6 (3147709) | |||||||||
| |||||||||
ผู้แสดงความคิดเห็น ck วันที่ตอบ 2009-12-28 10:45:36 |
ความคิดเห็นที่ 7 (3147710) | |||||||
| |||||||
ผู้แสดงความคิดเห็น ck วันที่ตอบ 2009-12-28 10:47:30 |
ความคิดเห็นที่ 8 (3147714) | |
มากคุณค่าทองเนื้อเก้า ที่มาของ ทอง บางสะพาน แหล่งแร่ทองคำที่มีชื่อเสียง และรู้จักกันดีในประเทศไทย มีด้วยกัน ๓ แหล่ง ได้แก่ อำเภอ กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส และอำเภอ บางสะพาน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพานเดิมชื่อ เมืองกำเนิดนพคุณ ตัวเมืองตั้งอยู่ที่ท่ามะนาว ฝั่งขวาของลำน้ำแม่รำพึง ต่อมาตั้งที่ท่ากะหลอ ปัจจุบันเรียกว่า บ้านหลักเมือง อยู่ริมฝั่งขวาลำน้ำบางสะพาน ซึ่งยังมีหลักฐานเสาหินหลักเมืองปรากฏอยู่ ต่อมาใน พ.ศ. ๒๔๓๗ มีการจัดการปกครองท้องที่เป็นระบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองกำเนิดนพคุณถูกยุบเป็นอำเภอเมืองนพคุณ ขึ้นต่อเมืองชุมพร เมื่อถึง พ.ศ. ๒๔๔๙ ตั้งเมืองประจวบคีรีขันธ์และยกอำเภอเมืองนพคุณขึ้นต่อเมืองประจวบคีรีขันธ์ และย้ายมาตั้งริมทางรถไฟ ในปี พ.ศ. ๒๔๕๙ และเปลี่ยนชื่อเป็นอำเภอบางสะพานใน พ.ศ. ๒๔๖๐ เป็นต้นมา ปัจจุบันอำเภอบางสะพาน มี ๗ ตำบล ได้แก่ ตำบลกำเนิดนพคุณตำบลร่อนทอง ตำบลพงศ์ประศาสน์ ตำบลทองมงคล ตำบลชัยเกษม ตำบลแม่รำพึง และตำบลธงชัย (หรือบ้านกรูดนั่นเอง) ทองที่มีชื่อเสียงนั้น อยู่ในเขตหมู่บ้านป่าร่อน ตำบลร่อนทอง และบริเวณที่มีการขุดทองมากที่สุดอยู่ที่บริเวณห้วยจังหัน ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ ๗๕๐๒,๐๐๐ เมตร ปัจจุบันปริมาณทองลดน้อยลงมาก แต่ก็ยังมีชาวบ้านมาร่อนทอง เพื่อเป็นอาชีพรองอยู่เสมอ ในอดีต บางสะพานเป็นเมืองที่มีการขุดและร่อนทองเป็นครั้งแรก สมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ในปี พ.ศ. ๒๒๘๙ เจ้าเมืองกุยได้ส่งทองร่อนหนัก ๓ ตำลึง นำถวายพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์จึงเกณฑ์ไพร่จำนวน ๒,๐๐๐ คน ไปร่อนทองที่บางสะพานเป็นเวลาปีเศษ ได้ทองคำหนัก ๙๐ ชั่งเศษ เป็นน้ำหนัก ๕๔ กิโลกรัม หรือ ๓,๖๐๐ บาท และได้นำทองทั้งหมดไป หุ้มยอดมณฑป รอยพระพุทธบาทสระบุรี แต่ยอดมณฑปนี้ถูกโจรจีนเผาหลอมทองเอาไปทั้งหมด เมื่อครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ ๒ (พ.ศ.๒๓๑๐) คุณสมบัติของทองบางสะพาน ทองบางสะพาน หรือ ทองบางตะพาน มีชื่อเสียงและรู้จักกันดีจนมีผู้กล่าวกันว่า เป็นทองคำเนื้อดีที่สุดของเมืองไทยและในโลก ทองที่พบเป็นทองธรรมชาติ เห็นเป็น Nuggest (ทองที่ขุดได้โดยไม่ต้องถลุง) อย่างชัดเจน เหลืองอร่าม สุกปลั่งและเนื้ออ่อน ทองร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นทองเนื้อเก้า เรียกว่า นพคุณเนื้อเก้า เชื่อกันว่าป้องกันภยันตรายและภูตผีปีศาจได้ดี ทองบางสะพาน หรือทองบางตะพาน หรือทองนพคุณนี้ในหนังสือประชุมประกาศรัชกาลที่ ๔ อธิบายไว้ว่า ทองคำที่ซื้อขายกันนั้น เรียกตามเนื้อและตามราคา เช่น ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๔ บาท เรียกว่า เนื้อสี่ ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๕ บาท เรียกว่า เนื้อห้า ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๖ บาท เรียกว่า เนื้อหก ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๗ บาทเรียกว่า เนื้อเจ็ด ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๘ บาทเรียกว่า เนื้อแปด ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๘ บาท ๒ สลึง เรียกว่า ทองเนื้อแปดสองขา ทองหนักบาทหนึ่งเป็นเงิน ๙ บาท เรียกว่า นพคุณเก้าน้ำ คุณสมบัติเด่นเฉพาะของทองบางตะพาน ปรากฏอยู่ในวรรณคดีไทยหลายเรื่อง ยกตัวอย่างเช่น นิราศนรินทร์ บางสะพานสพาดพื้น ทองปาง แก่แฮ รอยชะแลงชระลุราง ร่อนกลุ้ม ระลึกโฉมแม่แบบบาง บัวมาศ กูเอย ควรแผ่แผ่นทองหุ้ม ห่อไว้หวังสงวน ขุนช้างขุนแผน เอาไม้สรรพยามาทำฝัก ผสมผงลงรักให้ผิวผ่อง กาบหุ้มต้นปลายลายจำลอง ทำด้วยทองบาทชาติบางตะพาน | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ck วันที่ตอบ 2009-12-28 10:56:23 |
ความคิดเห็นที่ 10 (3147719) | |
เป็นเรื่องเล่าที่สาบสูญไปนาน ผู้เขียนพยายามหาอ่านรายละเอียดที่ไหนก็ไม่พบ เคยอ่านตอนเด็กสัก ๓๕ ปี ที่แล้ว ซึ่งพอจำได้บ้างก็อยากนำมาเล่าสู่กันฟังผิดพลาดคลาดเคลื่อนประการใดก็ขออภัยให้แคล้วคลาดมา ณ ที่นี้ด้วย เป็นเรื่องเล่าที่สาบสูญไปนาน ผู้เขียนพยายามหาอ่านรายละเอียดที่ไหนก็ไม่พบ เคยอ่านตอนเด็กสัก ๓๕ ปี ที่แล้ว ซึ่งพอจำได้บ้างก็อยากนำมาเล่าสู่กันฟังผิดพลาดคลาดเคลื่อนประการใดก็ขออภัยให้แคล้วคลาดมา ณ ที่นี้ด้วย โดยประวัติทองบางสะพานเริ่มมีการขุดร่อนในลำธารตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ได้ทองประมาณ ๙๐ ชั่ง นำไปสร้างยอดมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทที่จังหวัดสระบุรี เพื่อเป็นสักการะสถาน และ เป็นพุทธบูชา ครั้นมาสมัยรัชกาลที่ ๔ ได้มีการกำหนดคุณภาพทองซึ่งทองบางสะพานถือว่าเป็นทองชั้นเลิศ บางคนเชื่อว่าเป็นของสิ่งศักดิ์สิทธิ์เก็บไว้บูชาก็มี มีที่มาซึ่งบางส่วนก็ไม่มาดังนี้ จำเนียรกาลก่อนครั้งบริเวณที่ชาวบ้านพบทองนพคุณ ผู้มีอาคมท่านหนึ่งทราบว่าภูเขาแถบนั้นมีทองสุกปลั่งเยอะแยะซ่อนอยู่ ซึ่งเจ้าของเขาบังตาไว้ จึงทำพิธีจุดเทียนชัยขอดื้อ ๆ เปิดประเดิมเข้าไปในถ้ำเจอทองมากมาย ท่านผู้มีอาคมเอากะลาตักทองคำแล้วยังไงต่อผู้เขียนก็จำไม่ได้ เพราะ ไม่ใช่คนแถวนั้นเลยคิดสะเปะสะปะว่าท่านคงห่อเก็บไว้ในชายผ้าขาวม้ามั๊ง สรุปว่าท่านจะใช้แพ็คเกจอะไรเราไม่รู้ ถ้าเป็นสมัยนี้ต้องถุงก๊อบแก๊บแหงม ๆ หรืออาจเป็นได้ว่าท่านเดินถือกะลาดุ่ยเพราะคนสมัยก่อนไม่เหมือนสมัยนี้ คนเล่าเป็นคนขี้สงสัยคนฟังเลยลำบากหน่อยนะครับ เพราะเล่าไปสงสัยไป อีตอนอ่านก็ยังเด็กไม่ประสีประสา กลับมาที่ตอนจอมคาถาเดินถือกะลา (?) เจอพ่อค้าเดินถือหาบเปล่าสวนทางเห็นทองเข้าก็เลยถามว่า ไปได้ทองมาจากไหนล่ะพ่อรูปหล่อ ผู้มีวิชาเล่าให้ฟังพ่อค้าไม่ทราบคิดอย่างไร เพราะเหตุใดไม่ไปตักเองกลับขอแลกหาบกับทองกัน พ่อรูปหล่อผู้มีวิชาเลยต้องลำบากกลับไปเอาทองใหม่ กระจาดใส่ทองมันใหญ่เสียเวลาตักเทียนชัยก็ใกล้หมดแท่งแล้วด้วย ท่านมัวโกยทองไม่ทันสังเกตกว่าจะเต็มหาบเทียนชัยก็ดับเสียแล้ว ท่านเลยติดตายอยู่ในนั้น เรื่องที่เกิดขึ้นโจษขานกันไปทั่วไม่ทราบใครปูดข่าว พ่อค้าคนนั้นอาจเป็นเจ้าที่เดิมปูดเรื่องทั้งหมดเพื่อหลอกเอาผู้มีวิชาไปทำหน้าที่แทน คิดแบบละครหลังข่าวน่ะครับ ทุกคืนวันเพ็ญชาวบ้านไม่หลับไม่นอนมักจะเห็นวัวทองคำมาเพ่นพ่านเล็มหญ้า และถ่ายมูลเป็นทองคำแต่ไม่ทราบว่าผู้มีวิชาท่านนั้นออกมาเลี้ยงวัวด้วยหรือเปล่า บางคนได้มูลวัว..เอ้ย! ทองคำไปเลยเริ่มมีคนเข้ามาหาทองคำกันมากขึ้น ทุกครั้งนักแสวงโชคจะทำพิธีบวงสรวงขออนุญาตจากท่านก่อน ผู้เขียนจำได้จำกัดจำเขี่ยจะใส่ไข่แบบนักเล่าก็กลัวบาป เลยเล่าเท่าที่รู้ และ สันนิษฐานแจมส่งเดช ใครเป็นผู้สันทัดกรณีก็ช่วย ๆ กัน ผู้เขียนยังนึกอีกว่าเขาทำไมไม่เอายาถ่ายไปรดหญ้าให้วัวทองคำกินซะให้รู้แล้วรู้แร่ด จะได้ทองเยอะ ๆ ไม่ต้องไปร่อนให้มันเมื่อยเอว ให้วัวมันเมื่อยแทนดีกว่า จบเรื่องนี้แล้วผู้เขียนก็ยังหวาดคุณภาพชีวิตของตัวเองว่าจะแคล้วคลาดจากผู้อ่านขาเฮ้วรึเปล่า แต่ก็เอาเถอะเพราะอยากเล่าสุด ๆ ยังไงเฉลี่ยไปทาง บ.ก. บ้าง มีอะไรดีก็แบ่งกันไป
ประเด็นคำถาม | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ck วันที่ตอบ 2009-12-28 11:03:53 |
ความคิดเห็นที่ 11 (3147721) | |
ตื่นทั่วปท.แห่ขุดทองบางสะพาน นักแสวงโชคจากทั่วประเทศตื่นร่อนทอง เผยชาวบ้านจากภาคกลาง-อีสาน-ใต้ ลงพื้นที่อ.บางสะพาน เพื่อร่อนหาทองคำแท้ๆ หลังมีข่าวชาวบ้านพบทอง จึงแตกตื่นกันเดินทางมาเสี่ยงโชค ช่วงแรกๆ บางคนแค่มาเที่ยว แต่เห็นชาวบ้านได้ทองคำจริงๆ จึงไปหาซื้ออุปกรณ์ร่อนทองมาหาบ้าง จนอุปกรณ์ขาดตลาด ต้องใช้กระทะ หม้อหุงข้าว หรืออุปกรณ์ที่หาได้มาใช้แทน ชาวบ้านหวั่นเจ้าหน้าที่จะจับกุมหรือสั่งห้าม บางคนจึงกลัวหนีกลับบ้าน หลายฝ่ายแนะควรทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนจากจังหวัดต่างๆ ทั้งภาคกลาง ภาคอีสานและภาคใต้ จำนวนมาก เดินทางไปที่บ้านป่าร่อน หมู่ที่ 6 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อร่อนหาทองคำแท้ จากเหตุการณ์อุทกภัยที่ผ่านมา ซึ่งกระแสน้ำรุนแรงได้พัดเอาหน้าดิน ต้นไม้ ก้อนหินขนาดเล็ก ไปกับน้ำและทับถมอยู่ในที่ต่างๆ หลังน้ำลดปรากฏว่ามีผู้พบทองกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่โดยเฉพาะคลองทอง หมู่บ้านป่าร่อน ในวันนี้มีชาวบ้านจำนวนมากนำอุปกรณ์ที่เรียกว่า "กระล่อน" มาร่อนหาทอง ปรากฏว่ามีหลายคนพบทองคำหลายขนาด ซึ่งเมื่อชาวบ้านได้มา นักท่องเที่ยวก็จะเข้าไปขอดู ขอซื้อ จนกระทั่งบางรายอดใจไม่ไหวลงมือซื้ออุปกรณ์ร่อนทองเอง จนอุปกรณ์ขาดตลาด บางคนต้องใช้กระทะ หม้อหุงข้าว กะละมัง หรืออุปกรณ์ตามที่หาได้มาร่อนทองกันอย่างคึกคัก นายโสพงษ์ พงษ์เสน อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/1 หมู่ที่ 5 ต.กำเนิดนพคุณ อ.บางสะพาน กล่าวว่า อุทกภัยที่เกิดขึ้นทำให้หมดตัว เมื่อทราบว่ามีทองโผล่หลังน้ำลด จึงได้นำครอบครัวมา ใช้กระล่อน กระทะ กะละมัง มาช่วยกันร่อนหาทองได้มาบ้าง มีทั้งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่ นักท่องเที่ยวมาขอซื้อ ก็จะขายไปตามแต่ตกลงกันไม่มีราคาที่แน่นอน สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวไปซื้อหาอาหาร เสื้อผ้า และสิ่งของจำเป็นได้ และจะขอทำอาชีพนี้ไปก่อนระยะหนึ่งจึงจะไปประกอบอาชีพอื่นต่อไป นายเล็ก แซ่ชิน อายุ 55 ปี บ้านเลขที่ 17 ม.6 ต.ร่อนทอง อ.บางสะพาน กล่าวว่า ครอบครัวตนร่อนทองตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ ในครั้งนี้หลังจากน้ำท่วมใหญ่ได้ชะล้างหน้าดินของคลองทองให้กว้างมากขึ้น ชาวบ้านที่เคยมีอาชีพร่อนทองก็ได้ทำกิน บางรายไม่เคยร่อนทองก็มาดูทดลองร่อนทองกันเป็นจำนวนมากวันละเป็นพันคน และยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาชมไม่เคยขาด โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ "มีข่าวลือว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาจับชาวบ้านที่ร่อนทอง ทำให้เกิดการแตกตื่น คนหนีกลับไปจำนวนมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจับเพราะอะไรเพราะการร่อนทองที่เป็นอาชีพเป็นวิถีชีวิตแต่โบราณ จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมให้คลองทอง อ.บางสะพาน เป็นแหล่งท่องเที่ยว ส่วนอาชีพการร่อนทองของชาวบ้านก็อนุรักษ์ให้อยู่คู่กันตลอดไป" นายเล็กกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะที่ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวบ้านได้ทำการร่อนทองกันอย่างสนุกสนาน มีเจ้าหน้าที่เปิดเผยตัวว่ามาจากกรมทรัพยากรธรณีมาหาข้อมูล โดยชาวบ้านพยายามสอบถามแต่ไม่ได้เปิดเผยถึงความคิดเห็น บอกแต่เพียงว่าจะนำข้อมูลไปนำเสนอผู้บังคับบัญชาเท่านั้น ทำให้ชาวบ้านเกิดความกังวลใจเกรงเจ้าหน้าที่จะสั่งห้ามเข้าไปร่อนทองในคลองทองอีกต่อไป | |
ผู้แสดงความคิดเห็น ck วันที่ตอบ 2009-12-28 11:06:13 |
ความคิดเห็นที่ 12 (4100376) | |
ผมเคยเข้าไปร่อนทองที่ บริเวณสะพาน ใน ต ร่อนทอง พบมีคนกำลังร่อนทองกันอย่างสนุก ส่วนใหญ่มืออาชีพ ส่วนผมนั้นใฝ่รู้มากกว่า หลังเดินทางกลับจากอังกฤษแล้ว และตนเองเป็นหลานของพระอธิกช่วง วิสารโท อดีตพระคู่สวัดของอำเภอบางสะพาน และเจ้าอาวาสพระอธิการวาสวัดเขาถ้ำม้าร้อง ที่คนรู้จักท่านว่าปู่ช่วง พระเกจิรูปหนึ่งที่มีชื่อ ท่านอายุ109 ปี และเคยมักคุ้นเคยช่วยงานท่านนายอำเภอธวัช ธนจินดา อดีตนายอำเภอคนดังของ อ บางสะพานนี้ท่านหนึ่ง และอาศัยจากจุดนี้ผมจึงเข้าไปหาความรู้เรื่องทองคำที่ ต. ร่อนทอง บางสะพาน ในสมัยหนึ่ง ผมเข้าไป พร้อมกล้องแต่ไม่ไดใช้ เพราะยุงกัด แน่นอนคนไม่เคยไปมาที่นี่น่ากลัว ผมได้อ้างอิงที่กล่าวแล้วมา ผมจึงเข้าไป
ลองร่อนดูสนุกดี แต่เมื่อไปดูแบ้ว เพราะเรื่องทองที่นี่มีประวัติศาสตร์ เช่นในนิราศนรินทร์และที่อื่นๆอีกมากอ้างไว้จากสมัยอยุธยา ผมลงไปเล่นน้ำที่ทองมีอยู่และเหนื่อยกลับมา มีคนลงไปร่อนตลอดเวลาทั้งมือาชีพและสมัครเล่น
และแวะไปไทรคู่และวังน้ำเย็น คีรีล้อม และเขื่อน ม. ธรรมรัตน์ ... เขตอำเภอบางสะพาน และอำเภอบางสะพานน้อย ติดกันมีความสัมพันธ์กันมาก ต.บลบางสะพาน เป็นตำบลสำคัญของอำเภอบางสะพานน้อยแต่ว่าชื่อตำบลบางสะพาน กลับเป็นชื่อของอำเภอบางสะพาน ที่เป็นอำเภอสำคัญของจังหววัดประจวบอำเภอหนึ่ง จะเข้าไป เหมืองนายเอี้ยงแต่มืดมาก และไกล ป่าไม้บอกว่าอันตราย มีเสือดำ เสือโคร่ง.. และควรเข้ามาในเวลาราชการ
นายมาติณ ถีนิติ บันทึก
| |
ผู้แสดงความคิดเห็น marttrinii@gmail.com วันที่ตอบ 2018-01-27 08:50:22 |
[1] |
Copyright © 2010 All Rights Reserved. |
Share
|
Visitors : 551148 |